
ลุ้นลิขสิทธิ์ไทยลีก
ต้องลุ้นระทึกกันอีกครั้ง!!
กับการเปิดประมูลลิขสิทธิ์บอลไทยลีก ของทางสมาคมลูกหนังไทย
ที่เปิดรับผู้ที่มีความสนใจและมีความพร้อมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ให้ยื่นความประสงค์เข้าประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดศึกไทยลีก 4 ฤดูกาลรวด
ตั้งแต่ ฤดูกาลหน้า 2025/26-2028/29
หลัง ทรูวิชั่นส์ กำลังจะหมดสัญญาที่ทำกันไว้แค่ปีเดียว ลงในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นี้
โดยการยื่นความจำนงค์ผ่าน presidentefathailand.org
สามารถทำได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2568 เวลา 17.00 น.
น่าสนใจครับว่าการเปิดประมูลชนิดเต็มรูปแบบในครั้งนี้
มูลค่าของตัวเลขจะออกมาเป็นเช่นไร?
หลังอดีตที่ผ่านมาลิขสิทธิ์ของไทยลีกเคยรุ่งเรืองพุ่งกระฉูดแตกทะลุเพดานกว่าสี่พันล้านมาแล้ว
ก่อนที่กราฟจะพุ่งหัวตกลงมาจนตำ่เตี้ยเรี่ยดิน มูลค่าเป็น "ศูนย์" อย่างเหลือเชื่อ!
ซึ่งเกิดขึ้นในยุคของประมุขลูกหนังคนไหน? พระเดชพระคุณท่านก็คงจะรู้กันดี
โดยหากย้อนกลับไปดูค่าลิขสิทธิ์ไทยลีกที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2011 มาจนถึงปัจจุบัน
ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นภาระอันหนักอึ้งของผู้นำยุคนี้ อย่าง "นายกแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ อย่างแท้จริง
กับการที่จะผลักดันให้มูลค่าของลีกไทย กลับไปอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นให้มากที่สุด!
ไอ้เรื่องจะทะลุถึงหลักพันล้านอย่างที่เคยทำได้ในยุคก่อน ชั่วโมงนี้คงลำบาก
เพราะมีเรื่องของเศรษกิจตกสะเก็ดเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญ
แต่ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้า และความน่าจะเป็นในทางธุรกิจแล้ว
ตัวเลขของการประมูลรอบนี้ก็ควรจะสูงขึ้นกว่ารอบล่าสุด ที่ทรูฯจ่ายมาให้ที่ 100 ล้าน (โดยประมาณ)
โดยผมคาดเดาว่าก็คงจะเป็น "ทรูวิชั่น" เจ้าเดิมอีกนั่นแหละ ที่กลับมาประมูลอีกครั้ง
เนื่องจากตัวเองเพิ่งเสียคอนเทนต์บอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ไปให้กับกลุ่ม JAS ที่เข้ามาช่วงชิงไปได้ถึง 6 ฤดูกาล
ดังนั้น การกลับมาปั้น "ไทยลีก" ให้มีความน่าสนใจ จึงเป็นทางเลือกที่ดูดีไม่น้อย
เพราะครั้งนึง ทรูฯ เองก็เคยทำสำเร็จอย่างงดงามมาแล้ว เมื่อครั้งร่วมมือกับ "สยามสปอร์ต"
ขณะที่ในรายของ "บีจี สปอร์ต" ก็น่าจับตา เพราะมีส่วนได้ ส่วนเสีย กับฟุตบอลไทย โดยตรง
หากคิดจะมาลงทุนครั้งใหญ่ กับการประมูลลิขสิทธิ์ไทยลีก ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก!
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ "มาดามแป้ง" ซึ่งสวมหมวกประธาน บ.ไทยลีก อยู่อีกใบ ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
คือจะทำอย่างไรให้ภาพลักษณ์ไทยลีก ดูมีมูลค่ามากขึ้นในสายตาของเอกชนที่จะเข้ามาประมูลในครั้งนี้
โดยเฉพาะจุดอ่อนเรื่องที่บางสโมสรใช้อภิสิทธิ์ความเป็นบิ๊กทีมของตัวเอง ในการ"เลื่อนโปรแกรมเตะ" จนเลอะเทอะไปหมด
เรียกว่าทำ "ไทยลีก" กลายเป็น "ไทยเลื่อน" ไปหมดแล้ว หาความแน่นอนของโปรแกรมเตะ แทบจะไม่ได้
เช่นเดียวกับมาตรฐานการทำหน้าที่ของ "ผู้ตัดสิน" ที่นับวันจะสาละวันเตี้ยลง และทำท่าจะออกทะเลหนักข้อขึ้นไปทุกที
กลายเป็นปัญหาน้ำเน่า "ซำ้ซาก" ที่ทำให้แฟนบอลต่างเอือมระอา พาลไม่อยากจะเสียเงินค่าตั๋วเข้าไปชมเกมในสนาม
หรือไม่ก็ไม่ยอมควักกระเป๋าซื้อแพจเกจการถ่ายทอดสดมาดูให้ต้องเสียลูกกะตา
ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละครับ มันบั่นทอนให้มูลค่าของฟุตบอลไทย เสื่อมถอยลงทุกวัน
ถ้าขืนผู้บริหารสมาคมฯยังเพิกเฉย ไม่คิดจะแก้ไขให้ทุกอย่างมันดีกว่าเดิม
โอกาสที่ลิขสิทธิ์ของบอลลีกบ้านเราจะกลับมาเบ่งบาน (อีกครั้ง) เฉกเช่นอดีต
ก็คงจะยาก...ยิ่งกว่าเข็นเขาขึ้นครก ซะอีก จะบอกให้ !!!