เมืองทอง แถลงขอโทษ บุรีรัมย์ หลังแฟนๆ ที่ตนเอง พยายามปาแก้วใส่ เนวิน ชิดชอบ และนักเตะ ขณะขอบคุณแฟนบอล
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-1 ในศึกไทยลีก 2024-25 เก็บเพิ่มเป็น 54 คะแนน นำ แบงค็อก ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง 7 คะแนน เมื่อวานที่ผ่านมา
ระหว่างเกมนี้ในช่วงครึ่งหลัง มีจังหวะที่แฟนบอลทั้ง 2 ทีม ปาแก้วใส่กัน จนทำให้โฆษกในสนามต้องประกาศขอวอนแฟนบอลให้หยุดการกระทำดังกล่าว
หลังเกม เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนักเตะได้เดินไปขอบคุณแฟนบอลแฟนบอลที่มาเชียร์กันถึงสนามเป็นจำนวนมาก แต่สุดท้ายมีช็อตที่แฟนบอล "กิเลนผยอง" ที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณดังกล่าวพยายาม ปาแก้วใส่ แต่ปาไม่โดน
คำแถลงขออภัยจากสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด
สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ขอแสดงความเสียใจและขออภัยอย่างจริงใจต่อ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รวมถึงนักกีฬา, ทีมงานและแฟนฟุตบอล สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกท่าน สำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของแฟนฟุตบอล เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ได้ปาแก้วน้ำกระดาษลงไปในสนาม ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กำลังร้องเพลงหน้าสแตนด์กองเชียร์หลังจบการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025
สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด มีนโยบายเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาวงการกีฬาและส่งเสริมการเชียร์ ที่เหมาะสมต่อวัฒนธรรมการเชีบร์และวัฒนธรรมไทย จึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการกระทำดังกล่าว ที่ถือเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อจิตวิญญาณแห่งกีฬาและไม่เคารพต่อคู่แข่งขัน
สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ขอน้อมรับผิดและจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก โดยจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและรณรงค์ให้แฟนฟุตบอลมีจิตสำนึกที่ดีในการเชียร์กีฬาอย่างสร้างสรรค์และมีน้ำใจนักกีฬา
สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ขอขอบคุณสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ให้ความร่วมมือและความเข้าใจในเหตุการณ์ครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองสโมสรจะยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีและร่วมกันส่งเสริมวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ หากยึดจาก ระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ อาจเข้าการกระทำผิดตาม บทที่ 3 ข้อ 4.4
"กองเชียร์ทีมใด หรือกลุ่มบุคคลใด หรือบุคคลใด ขว้างปาหรือกระทำด้วยประการใด ให้วัสดุหรือสิ่งของอื่นใด เข้าไปในสนามก็ดี หรือกระทำต่อนักกีฬาฟุตบอล หรือเจ้าหน้าที่ทีม หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่ง หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขันก็ดี องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่เป็นผู้กระทำ และ/หรือองค์กรสมาชิกที่เป็นทีมที่ปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าว ต้องรับโทษถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท"